ภาวะระวังเวลาตั้งครรภ์

ท้องไม่พร้อม

Down’s syndromeเป็นสภาวะปัญญาอ่อน (IQ เฉลี่ยราว 50) ควรจะมีการสนับสนุนแล้วก็กระตุ้นความเจริญให้สมควรตามวัยตั้งแต่อายุน้อย เพื่อมีความก้าวหน้าแล้วก็ช่วยเหลือตัวเองได้ดิบได้ดีถัดไป เมื่อโตไปสู่วัยที่จะเรียนหนังสือได้ ควรจะตรวจ IQ เพื่อมองระดับปัญญา ในกรุ๊ปเชาวน์ต่ำน้อย ( IQ 51-70 ) บางครั้งอาจจะเรียนหนังสือได้ในชั้นเรียนพิเศษ ซึ่งเดี๋ยวนี้นอกเหนือจากการที่จะมีอยู่ในสถานศึกษาสำหรับเด็กที่มีความผิดพลาดทางสติ สติปัญญา ในรายที่เชาวน์ต่ำปานกลาง ( IQ 35-50 ) บางทีอาจฝึกหัดอาชีพได้ ถ้าเกิดต่ำมากมาย ( IQ 25-34 ) บางทีอาจได้เพียงแค่ฝึกหัดการช่วยเหลือเกื้อกูลตัวเองในชีวิตประจำวันEdward’s syndrome กรุ๊ปอาการ เอ็ดวาร์ด มีเหตุมาจากเด็กแรกคลอดมีโครโมโซม คู่ที่ 18 เกิน มีลักษณะไม่ปกติที่สำคัญเป็นน้ำหนักน้อย หัวและก็บริเวณใบหน้ามีลักษณะเฉพาะ เป็นหัวยาวรวมทั้งกำดันยื่น บริเวณใบหน้าใหญ่แล้วก็เป็นเหลี่ยม ตาห่าง ปากแคบ ใบหูไม่ปกติแล้วก็อยู่ที่ต่ำ บางรายปากแหว่ง แล้วก็เพดานแหว่ง ข้างหลังคอเป็นลอน และก็มีการเกร็งของกล้าม แขนเกร็งอยู่ในท่างอ เท้างอขึ้นอาจมีความไม่ดีเหมือนปกติโดยกำเนิดของหัวใจแล้วก็ไต ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง เป็นราวๆปริมาณร้อยละ 80 ที่เจอเป็นหญิง มักตายตั้งแต่อายุยังน้อย
Patau’s syndrome กรุ๊ปอาการ พาโทส์ เกิดขึ้นจากเด็กแรกเกิดมีโครโมโซมคู่ที่ 13 เกิน มีลักษณะไม่ดีเหมือนปกติที่สำคัญหมายถึงน้ำหนักน้อย หัวเล็ก ตาเล็กหรือ ไม่มีตา ปากแหว่ง และก็เพดานแหว่ง ตา 2 ข้างอยู่ห่างกัน มีรอยย่นที่ศีรษะตา จมูกโต คางสั้น ใบหูเล็กเปลี่ยนไปจากปกติแล้วก็อยู่ต่ำ นิ้วมักเกิน หัวใจทุพพลภาพโดยกำเนิด ไตไม่ดีเหมือนปกติ อาจมีอวัยวะภายในท้องอยู่กับซ้ายขวากัน ฯลฯ เด็กทารกกลุ่มนี้จะเติบโตช้า ปัญญาอ่อน หูหนวก โดยมากตาบอดด้วยและก็มักตายตั้งแต่อายุยังน้อย อายุเฉลี่ยราว 89 วันเพื่อเป็นการตรวจวิเคราะห์ทารกในท้องที่มีความผิดธรรมดาดังที่กล่าวถึงแล้วมาข้างต้น สามารถทำเป็นโดยการตรวจน้ำคาวปลา (Amniocentesis) น้ำคาวปลา เป็นของเหลว ใส สีเหลืองอ่อนที่อยู่ล้อมลูกในท้อง ใส่อยู่ในถุงน้ำคาวปลาอีกครั้งหนึ่ง น้ำคาวปลาประกอบไปด้วยน้ำ 98% รวมทั้งสารต่างๆอีก 2%ซึ่งจะมีเซลล์ของเด็กอ่อนที่หลุดออกผสมอยู่ด้วย ทารกในท้องจะลอยอยู่ในน้ำคาวปลา ระหว่างที่มีการท้องจำนวนน้ำคาวปลาจะมากขึ้นเรื่อยๆตามการเติบโตของ เด็กอ่อน เมื่อมีท้องถึงกำหนด ( 40 อาทิตย์ ) จะมีจำนวนของน้ำคาวปลาโดยประมาณ 1,000 ml ที่ล้อมเด็กแรกคลอดอยู่ น้ำคาวปลาจะไหลเวียนโดยการเคลื่อนไหวตัวของเด็กทารก ทุกๆ3 ชั่วโมง
โดยทั่วไปการเจาะน้ำคาวปลาจะเจาะในระยะไตรมาสที่ 2 ของการท้อง รวมทั้งชี้แนะให้เจาะในหญิงท้องที่แก่ 35 ปีขึ้นไปทุกราย อย่างไรก็แล้วแต่หญิงตั้งท้องที่แก่น้อยกว่า35 ปี บางทีอาจจะต้องทำตรวจน้ำคาวปลาถ้าหากมีข้อชี้ชัด การเจาะน้ำคาวปลาไม่ต้องงดเว้นน้ำงดเว้นของกินก่อนทำ หมอจะทำตรวจท้องโดยจะใช้เครื่องอัลตร้าซาวด์เพื่อคาดเดาอายุท้องที่ แน่ๆ ปริมาณของเด็กอ่อน การเต้นของหัวใจ ท่ารวมทั้งตำแหน่งของเด็กแรกเกิด ตำแหน่งของเกลื่อนกลาด ว่าอยู่ที่ที่ไหนเพื่อเป็นการป้องกันและยังเป็นการไม่ให้เข็มแทงไปถูกเด็กอ่อน

ยาขับเลือด